Lean Manufacturing นั่นครอบคลุมถึงวิธีการผลิตซึ่งเป็นรากฐานของการเพิ่มคุณค่าให้มากที่สุดและลดของเสียจากกระบวนการผลิตให้มากที่สุด Lean Manufacturing นั้นมีการค่อยๆพัฒนาใช้ในทวีปอเมริกาเหนือโดยเป็นการเริ่มต้นของระบบการผลิตแบบโตโยต้า Toyota Production System (TPS) ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึง Kaizen Andon และ Kamban ในญี่ปุ่น ซึ่งก็มาจากมาตรฐานใน Lean Manufacturing
หัวใจหลักของการผลิตแบบลีนคือการคำนวณคุณค่าในการผลิต ซึ่งคุณค่าในการผลิตก็คือสิ่งของหรือfeature ที่ลูกค้าจะจ่ายสำหรับซื้อผลิตภัณท์ มุมมองทั้งหมดของกระบวนการผลิตที่มีของเสียแสดงให้เห็นว่า Lean Manufacturing เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการทรัพยากรและพลังงานในการผลิต
ลักษณะของการผลิตแบบ Lean
- มีของเสียน้อย
- Lead Time ในการผลิตสั้น
- รุ่นการผลิตมีการขนาดเล็กลง
- พัสดุคงคลังมีปริมาณน้อย
- ผู้รับช่วงการผลิตมีจำนวนน้อยราย แต่เชื่อถือได้มาก
- มีสายการผลิตที่เฉพาะซึ่งมีขนาดเล็กกว่า
- ความถี่ในการเปลี่ยนแผนการผลิตต่ำกว่า
- ลดจำนวนการเกิดสภาพคอขวด
- ใช้พนักงานจำนวนน้อย แต่มีความชำนาญสูงกว่า
- เครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ มีความยืดหยุ่นมากกว่า

คือวิธีการที่เป็นระบบในการระบุและกำจัดความสูญเสีย หรือสิ่งที่ไม่เพิ่มคุณค่าภายในกระแสคุณค่าของกระบวนการ โดยอาศัยการดำเนินตามจำนวนความต้องการของลูกค้าด้วยระบบดึง (Pull System) ทำให้เกิดสภาพการไหลอย่างต่อเนื่อง ราบเรียบ และทำการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ระบบอยู่เสมอ
Lean Manufacturing นั้นไม่ใช่เป็นการลดต้นทุนแต่เป็นการจัดการทรัพยากรให้เหมาะสม ซึ่งจะได้ประโยชน์โดยเป้นการลดของเสียหรือสิ่งที่ไม่จำเป็นในกระบวนการออกไป
เพื่อการเข้าในในจุดเด่นของ Lean Manufacturing Lean Manufacturing คือในการผลิตที่จะต้องมีการเพิ่มคุณค่าสำหรับสินค้าหรือการให้บริการเท่านั้นและจะไม่มีของเสียหรือสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในการผลิต ซึ่งการผลิตแบบดั้งเดิมจะมีมุมมองคือ ต้นทุน + กำไร = ราคาขาย
ซึ่งมุมมองแบบดั้งเดิมจะแตกต่างจากแบบลีน โดยที่มุมมองของการผลิตแบบลีนคือ กำไร = ราคาขาย –ต้นทุน

Lean Manufacturing สามารถช่วยหน่วยงานหรือองค์กรของท่านได้อย่างไรบ้าง
- ช่วยในด้านขวัญและกำลังใจของคนงานในการผลิตดีขึ้น
- ลูกค้าจะได้สิ่งสมควรที่จะได้รับในการลดของเสียและปรับปรุงในการส่งมอบ
- สินค้าส่งถึงตลาดได้เร็วกว่าเดิม